วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

วันที่ 13 สิงหาคม 2551 เวลาประมาณ 16.00น ได้มีกลุ่มคนประมาณ 6-7 คนบุกเข้ามาในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ที่ผมเป็นคนดูแลอยู่ตอนนั้น ซึ่งเป็นร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ขนาดเล็กมีจำนวนเครื่อง แค่ 4-5 เครื่องเท่านั้น
กลุ่มคนเหล่านั้นได้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาออกตรวจตามร้านอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารแต่ก็ไม่ได้แสดงบัตรประจำตัว หรือแสดงเอกสารใดๆทั้งสิ้น
หลังจากพูดจบแล้วก็เดินเข้าไปดูใบขออนุญาติและถ่ายกล้องวีดีโอพร้อมถ่ายภาพบริเวณในร้าน ต่างๆ

และทำการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และขอตรวจสอบไฟล์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นเครื่องควบคุมและเครืองลูกต่างๆ ซึ่งมีลูกค้าของทางร้านใช้งานอยู่ ซึ่งทางร้านก็มั่นใจในความถูกต้องทุกอย่าง จึงไม่ได้ห้ามปรามหรือทักท้วงแต่อย่างใด แต่หลังจากที่เปิดเข้าค้นหาข้อมูลในเครื่องปรากฏว่า
มีไฟล์ลามกอนาจารในเครื่องเซิฟเวอร์ของทางร้าน ซึ่งกลุ่มคนพวกนั้นก็เปิดโปรแกรมไฟล์ลามกนั้นและใช้กล้องวีดีโอถ่ายไว้ทั้งหมด
และก็บอกว่าทางร้านได้มีไฟล์เพลง ลิขสิทธิ์ของบริษัทแกรมมี่ไว้เพื่อเผยแพร่ด้วย
ซึ่งทางร้านเองไม่ได้นำมาเก็บไว้เพื่อที่จะหาประโยชน์แต่อย่างใด ความเข้าใจของทางร้านคือ

มีลูกค้าซึ่งมาใช้งานโดยอาจใช้โทรศัพย์มือถือมาทำการโหลดไฟล์แล้วเก็บไว้ที่ตัวเครือง
โดยที่ทางร้านไม่ทราบมาก่อน
หลังจากที่แจ้งว่ามีไฟล์เพลงลิขสิทธิ์แล้ว กลุ่มคนดังกล่าวก็กระทำการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากร้านบอกว่าจะทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานและเชิญตัวเจ้าของร้านซึ่งเป็นภรรยาของผม
ไปที่สถานีตำรวจด้วย ซึ่งผมเป็นคนอาสาขอไปแทนเพื่อที่จะดำเนินการต่อไป

หลังจากที่ถึงสถานีตำรวจกลุ่มคนเหล่านั้นได้บอกว่า จะขอเจรจาเพื่อยอมความ

โดยที่ทางร้านจะต้องทำการชำระค่าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นค่ายอมความ ทั้งสิ้นเครื่องละ 40,000 บาท
เป็นจำนวน 4 เครื่อง รวมทั้งสิ้น 200,000 บาท โดยที่จะไม่แจ้งความว่าทางร้านได้มีสื่อลามกไปด้วย ถ้าทางร้านยอมความ
กับกลุ่มคนเหล่านั้น แต่เนื่องจากทางร้านเพิ่งเปิดกิจการได้ไม่นานพร้อมกับจำนวนเครื่องที่ไม่มากนัก

จึงขอต่อรองลดค่ายอมความลงมาอีก โดยกลุ่มคนเหล่านั้นได้ตกลงว่าจะยอมความที่ เครื่องละ 5,000 บาท
เป็นจำนวน 4 เครื่อง ทั้งหมด 20,000 บาท ทางร้านจึงตอบตกลงยอมความ เพราะกลัวที่จะโดนยึดใบอนุญาติและไม่ได้เปิดกิจการต่อไปอีก หลังจากที่ตกลงกันแล้วทางร้านได้ทำการหยิบยืมหา เงินจำนวน 20,000 บาท มาให้
และทำการเซ็นในใบยอมความ ที่สถานีตำรวจอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น เวลา 20.00 น โดยประมาณ
โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เซ็นร่วมในใบยินยอมความนี้เลยด้วยซ้ำ


โดยที่มีชื่อนาย สงกรานต์ ทนันท์ โดยบริษัท จีพาเทน จำกัดเป็น
ผู้รับเงินยอมความไป


ซึ่งในวันที่เกิดเหตุได้มีร้านอินเตอร์เน็ตโดนกระทำการดังกล่าวเป็นจำนวนหลายร้าน
ซึ่งต้องสูญเสียรายได้เป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาทโดยที่ไม่ทราบถึงรายละเอียดความจริงความถูกต้อง
ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ความเป็นธรรมกับเรื่องที่เ้กิดขึ้นแต่อย่างใด


ไม่มีความคิดเห็น: